Search

[Fern751]

ชีวิตบุคลากรที่ทำงาน ส่งผลต่อตับ เป็นคำถามที่ดูเหมือนจะตอบยากเพราะเหตุว่าแม้ ตับมีปัญหา ตับก็จะไม่แสดงออกในทันที ซึ่งต่างกับอวัยวะอื่นๆที่เจ็บเมื่อไรก็ส่งสัญญาณเตือนทันที แม้กระนั้นสำหรับตับแล้วถ้าเกิดได้รับการทำร้ายร่างกายตับก็จะสามารถซ่อมตนเองแม้กระนั้นก็บางครั้งอาจจะไม่โชคดีเสมอพร้อมถ้าตับได้รับการทำลายอย่างมากรวมทั้งสม่ำเสมอก็นำมาซึ่งการทำให้โรคตับแข็งหรือเป็น มะเร็งตับ ได้



แล้วใน ชีวิตพนักงานที่ทำงาน 1 วันอย่างพวกเราๆนั้นสร้างภาระหน้าที่ให้ตับได้มากขนาดไหนมาดูกัน

อาหารมื้อเช้า มีผลต่อตับ 

มื้อรุ่งเช้าที่รีบเร่งของวัยรุ่นสถานที่ทำงานส่วนใหญ่กับการดื่มกาแฟเพียงแต่ 1 แก้วหรือจนถึงมิได้กินอะไรเลยทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต้อง ซึ่งแม้นับเวลาย้อนไปมื้อปัจจุบันที่ร่างกายได้รับไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง แสดงว่าตับผู้ที่เป็นหน้าที่ส่งพลังงานแล้วก็สารอาหารไปยังส่วนต่างๆภายในร่างกายนั้นจะต้องดึงไกลโคเจนที่เก็บสะสมไว้มากลายเป็นพลังงานในช่วงเช้ารวมทั้งร่างกายยังต้องทดแทนคาร์โบไฮเดรตที่ใช้สำหรับในการกลายเป็นพลังอย่างรวดเร็วจึงจำเป็นต้องรับประทานในมื้อถัดไปมากขึ้นอีกด้วยซ้ำซึ่งเปลี่ยนเป็นการเพิ่มภาระหน้าที่ให้ตับสำหรับเพื่อการทำงานมากขึ้น

มลภาวะ สารพิษ มีผลต่อตับ

เวลาเช้ายังจะต้องเผชิญมลพิษบนท้องถนนในทุกวี่วันด้วยชีวิตที่รีบของคนกรุงในตอนนี้ที่ต้องเจอกับมลภาวะต่างๆไม่ว่าจะเป็น ควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ พิษกลุ่มนี้ เมื่อได้รับการสั่งสมเป็นเวลานานอาจมีผลพวงต่อร่างกายในระยะยาวได้ ผลวิจัยจากหน่วยงานอนามัยโลกบอกว่า 80% ของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆของผู้คนนั้น ล้วนแล้วแต่มีสาเหตุฐานรากเกี่ยวโยงจากการสัมผัสกับมลภาวะที่สะสมเป็นระยะเวลานานทั้งปวงส่งผลต่อในร่างกายโดยเฉพาะตับที่เป็นศูนย์กลางและก็กรองสารพิษของร่างกาย

Fast Food มีผลต่อตับ

พอมื้อเที่ยงตรงต่างคนต่างรีบร้อนเนื่องจากว่าจำนวนมากบุคลากรสถานที่ทำงานจะต้องรีบหามื้อกลางวันในขณะเดียวกันซึ่งมื้อของกินที่เหมาะกับในขณะนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารจานด่วนพร้อมกินได้ทันทีแต่บางทีอาจมีผลร้ายในระยะยาวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตับ ด้วยเหตุว่าจำนวนมากอาหารจานด่วนนั้น มักจะมีแป้ง น้ำตาล ไขมัน และโซเดียมสูงเกินความอยากได้ของร่างกาย ทำให้เกิดการสะสมไขมันส่วนเกินในตับได้ซึ่งแม้มีไขมันพอกมากมายๆ หรือแทรกในเนื้อตับมากเข้า มีผลเสี่ยงต่อโรคไขมันพอกตับ ทำให้เกิดสภาวะตับอักเสบ ตับแข็งรวมทั้ง โรคมะเร็งตับ ท้ายที่สุด

ความตึงเครียด มีผลต่อตับ

ตอนบ่ายมีเรื่องมีราวสะสมให้เกิดความเครียดอีกทั้งเรื่องเนื้องานที่ได้รับมอบหมายหรืองานด่วน งานแทรกนำมาซึ่งการทำให้ การทำร้ายตับจากความเครียดที่สะสม ทำให้ต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนแล้วก็ฮอร์โมนในกรุ๊ปความตึงเครียด ดังเช่นว่า คอร์ติซอล ซึ่งมีผลต่อการกระตุ้นเนื้อเยื่อของเซลล์ต่างๆภายในร่างกายจนถึงทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ตับแล้วก็ทำให้ความรู้ความเข้าใจสำหรับในการทำงานของภูมิต้านทานลดลดลงส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อตับได้ ให้โอกาสให้เชื้อโรคเข้ามาประทุษร้ายได้มากขึ้น นี่เป็นสาเหตุว่าเพราะเหตุไรเราถึงล้มป่วยจากความเคร่งเครียดได้

แอลกอฮอล์ ยาสูบ มีผลต่อตับ

แล้วก็ก่อนกลับไปอยู่ที่บ้านก็มีการสังสรรค์ ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เสวนากับสหายสถานที่สำหรับทำงานทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตั  แต่หารู้ไม่ว่าเป็นการทำลายตับโดยตรง เพราะเหตุว่าเซลล์ตับถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์แล้วก็การสูบบุหรี่ อีกทั้งพิษอะซีทัลดีไฮด์ จากแอลกอฮอล์ ทำให้โรคตับอักเสบจากแอลกอฮอล์และก็การสูดควันบุหรี่ซึ่งมีสารอนุมูลอิสระปนเปรวมถึง สารนิโคติน ที่เข้าไปกระตุ้นต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนนำมาซึ่งการทำให้เซลล์ตับเกิดการความเสียหาย และก็แอลกอฮอล์ ยังให้แคลอรี่ มากถึง 7 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม เทียบกับ คาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีน ที่ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม ก็เลยไม่แปลกที่ สายดริ๊งก์ถึงเสี่ยงมีภาวะอ้วนอ้วน!!!

นอนน้อย มีผลต่อตับ

รวมทั้งสุดท้ายกว่าจะได้นอนก็ยังนอนมืดค่ำ พักผ่อนน้อย ส่วนใหญ่แล้วหนุ่มสาวออฟฟิตทั้งหลายก็ยังมิได้นอนส่งผลให้แนวทางการทำงานกำจัดพิษในตับทำงานได้ไม่สุดกำลังส่งผลต่อการเกิดโรคร้ายที่ตามมาอีกทั้งตับอักเสบได้ง่ายๆ ซึ่งตามแนวความคิดแล้วช่วง ห้าทุ่มถึงหนึ่งนาฬิกา เป็นเวลาที่จะเกิดกรรมวิธีการกำจัดพิษในตับ ซึ่งควรต้องอยู่ในตอนการนอนสนิท

จากพฤติกรรมเพียงแค่ หนึ่งวันเราก็สร้างภาระให้ตับเรียกว่าทุกช่วงเวลาเลยก็ว่าได้ ไหนจะเป็นภาระที่เราเลี่ยงไม่ได้หรืออุตสาหะควบคุมแล้วหลังจากนั้นก็ทำได้ยาก เพราะฉะนั้นเราก็เลยต้องที่จำต้องหันมาดูแลรักษาสุขภาพร่างกายตับเราให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ก่อนจะไม่เหลือตับให้ดูแล