Search

[Panitsupa]

ในปัจจุบัน การทำเกษตรสมัยใหม่กำลังพัฒนาไปสู่การใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต หนึ่งในแนวทางที่เป็นที่นิยม คือการสร้าง Smart Farming Greenhouse ซึ่งเป็นโรงเรือนที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับการเพาะปลูกในสภาพแวดล้อม ที่สามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำ และวัสดุที่สำคัญในการสร้างโรงเรือนนี้ คือโพลีคาร์บอเนต



[ul]

• คุณสมบัติของโพลีคาร์บอเนตในโรงเรือนแบบ SMART

[/ul]
โพลีคาร์บอเนต เป็นวัสดุที่มีความโปร่งใส และทนทานสูง ทั้งยังมีความสามารถในการส่งผ่านแสงได้ดี ซึ่งใกล้เคียงกับกระจก แต่มีความแข็งแรงมากกว่าถึง 250 เท่า ทำให้ทนต่อสภาพอากาศรุนแรง อย่าง พายุ ได้โดยไม่แตกร้าว 


นอกจากนี้ โพลีคาร์บอเนตยังมีน้ำหนักเบากว่ากระจกถึงสองเท่า ทำให้การติดตั้ง และการขนส่งสะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดภาระน้ำหนักที่โครงสร้างของโรงเรือนต้องรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
[ul]

• การใช้โพลีคาร์บอเนตเป็นฉนวนกันความร้อน

[/ul]
ในโรงเรือนระบบ Smart Farming การควบคุมอุณหภูมิ และแสงเป็นสิ่งสำคัญ โดยแผ่นโพลีคาร์บอเนตนั้น มีคุณสมบัติเป็นฉนวนความร้อนที่ดี ทำให้สามารถรักษาอุณหภูมิภายในโรงเรือน ให้เหมาะสมกับการเติบโตของพืชได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศเย็น 


ดังนั้น โรงเรือนที่ใช้โพลีคาร์บอเนต จะรักษาความร้อนได้ดีกว่าโรงเรือนที่ใช้วัสดุอื่น เช่น กระจก หรืออะคริลิก ซึ่งหมายความว่าความร้อน จะสูญเสียน้อยลง ทำให้ประหยัดพลังงาน และลดค่าใช้จ่ายในการทำความร้อน



[ul]

• ประโยชน์ของการใช้โพลีคาร์บอเนตในโรงเรือนเพาะชำ

[/ul]
การใช้โพลีคาร์บอเนตในโรงเรือน Smart Farming สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตพืชได้ เพราะจะทำให้ควบคุมสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น ทำให้พืชเติบโตได้อย่างเต็มที่ และมีคุณภาพสูงสุด 


นอกจากนี้ ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาว เนื่องจาก โพลีคาร์บอเนตมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และทนทานต่อสภาพอากาศที่รุนแรง อีกทั้งยังไม่ต้องเปลี่ยน หรือซ่อมแซมบ่อยครั้ง


สรุปได้ว่า โพลีคาร์บอเนตเป็นวัสดุที่เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับการสร้างโรงเรือนแบบ Smart ที่ต้องการความแข็งแรงทนทาน และประสิทธิภาพในการเก็บรักษาความร้อน ซึ่งจะช่วยให้การเพาะปลูกพืชภายในโรงเรือน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.ampelite.co.th/