• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นเพราะเหตุใด ? รักษาได้เช่นไร ?

Started by Fern751, January 04, 2023, 11:33:05 PM

Previous topic - Next topic

Fern751

ตับมีปัญหา จำเป็นต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ด้วยเหตุว่าแม้ปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบจนกระทั่งเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง และมะเร็งตับได้ด้วยเหมือนกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายมีชื่อ กล่าวย้ำเตือนถึงจุดสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย ถ้าหากคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และเมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนกลับมาดังเดิมได้" แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าตับกำลังมีปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? รวมทั้งควรจะดูแลบำรุงเช่นไร..? เนื้อหานี้มีคำตอบให้ท่าน  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นเหมือนศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บสินค้า (เก็บกักสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด ฯลฯ) รวมทั้งยังเป็นโรงงานดัดแปลง (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะใช้ประโยชน์เป็นพลังงาน) หากร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็เสมือนตายทั้งเป็น คำบอกเล่าที่ว่าตับเป็นเหมือนหัวใจดวงลำดับที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการสร้าง
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อสุขภาพ ซ่อมส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็ง อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่ เป็นส่วนประกอบของเลือด ยกตัวอย่างเช่น อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารรวมทั้งเกลือแร่เอาไว้ในหลอดเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยสลายไขมัน รวมทั้งมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารชนิดไขมัน และถึงสารเริ่มต้นของฮอร์โมนบางชนิด
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินและเกลือแร่บางประเภทที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยแปรรูป ของกินรวมทั้งยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองสารพิษในเลือด
- ขับของเสียออกมาจากร่างกายในแบบปัสสาวะ หรือขับถ่ายมากับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องประสบเจอกับปัญหาทรุดโทรมสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยทั้งจากเชื้อไวรัส หรือโรคที่เกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์ตั้งแต่เกิด แต่หลักๆที่ทำให้คนส่วนใหญ่เกิดการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักมีเหตุมาจากการกระทำทำร้ายตับอาทิเช่น
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบทานอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานมาก มีความเครียด
4.ชอบนอนดึกดื่น ตื่นสาย
5.กินยาหรืออาหารเสริมมากจนเกินไป
6.ขาดการบริหารร่างกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นระยะเวลานาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารยามเช้า
9.ชอบกินอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ
10.ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับ สารพิษ สารเคมี
11.มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมทุกวันซึ่งเราบางทีก็อาจจะเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องพบ ก็เลยปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานมาก 24 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในแต่ละวันอีกด้วย โดยเราอาจจะลองดูอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา อย่างเช่น มีลักษณะอาการเหน็ดเหนื่อยง่าย อ่อนแรง , มีปัญหาสำหรับในการนอน , อาการท้องอืดบ่อยๆ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความต้องการของกินลดลง , แขนขา ท้องบวมโต ฯลฯถ้าเกิดคุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวข้างต้นแล้วยังไม่สนใจกลับมาดูแลตับอีก.. รู้สึกตัวอีกครั้งความน่าสะพรึงกลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนก็ในขั้นร้ายแรงอย่างตอนเป็นตับแข็ง หรือมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การดูแลและรักษาตับเบื้องต้น
"ตับ" เป็นอวัยวะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ โดยด้านทฤษฎีหากเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ ดังนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับโดยไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตัวเองได้ แต่ไม่ได้แปลว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเพิกเฉยให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ เพราะว่าหากตับอักเสบซ้ำๆกระทั่งเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้น ยิ่งโรคมะเร็งยิ่งไม่ต้องพูดถึง.. สิ่งจำเป็นที่สุดเป็น การตั้งใจบำรุงตับเพื่อป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในตอนหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรจะเริ่มปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงมากขึ้น
(1) ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
ลดของกินไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดจำนวนไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
เลี่ยงอาหารหวาน เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นรวมทั้งรสแทนน้ำตาลแล้วก็ผงชูรส
กินอาหารปรุงสุก รักษาสุขอนามัย ลดการเสี่ยงสำหรับในการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
ออกกำลังกายให้ได้ 150 นาที/สัปดาห์ (หรืออย่างต่ำ 60 นาที/สัปดาห์)
ระหว่างทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือปรับเปลี่ยนอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกหัดการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปขจัดของเสียในเลือด รวมทั้งก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) หลีกเลี่ยงการรับยาเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่สามารถเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบยาสูบให้น้อยลงที่สุด
เลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือรอบๆที่มีการแปดเปื้อนของสารเคมี รอบๆที่มีฝุ่นควัน มลภาวะหนาแน่นแม้ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตามเดิม เพิ่มเติมเป็นถ้ามีความรู้สึกว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราอาจทำได้ยาก ลองมองเทคนิคน่ารู้ ที่สามารถจะช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ด(ไม่)ลับน่าสนใจ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องกิน..เรื่องใหญ่" อาหารที่เรารับเข้าไปในทุกๆวันก็นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงให้แก่ตับได้เช่นกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดียิ่งขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นกับว่าเรากินอะไรลงไป.. และก็นี่เป็น 3 ตัวช่วยน่าสนใจซึ่งสามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเห็นได้ตามท้องตลาดทั่วไป เปิดตู้เย็นเราก็เจอ แม้กระนั้นเครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้แฝงไปด้วยสรรพคุณที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ และป้องกันตับจากพิษ รวมถึง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่การค้นคว้าวิจัยว่ากระเทียมผงช่วยในการลดไขมันในคนที่มีภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
หากแม้ชื่อจะไม่ชินหูคนอีกหลายๆคน แต่ว่ามันเป็นสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ และก็ลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์คือ กรดโอลีโนลิกแล้วก็กรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณลักษณะเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมถึงสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งทำให้ตับมีสุขภาพแข็งแรง ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวนับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นยอด โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการทำการวิจัยว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆภายในร่างกาย ทั้งพบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียวจำนวน 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย และยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆทั้งวันยังช่วยดีท็อกซ์ชำระล้างสารพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมจนถึงโรคร้ายอาจถามหาแบบไม่ทันรู้ตัว เมื่อจำเป็นต้องใช้ชีวิตและมีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นเรื่องจำเป็นซึ่งสามารถป้องกันแล้วก็ลดความเสี่ยงสำหรับการเป็น ตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับ โรคยอดฮิตที่คร่าชีวิตชาวไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" สุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงเราทำขึ้นเองได้.. โดยถ้าหากสงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับอยากปรึกษาผู้ที่มีความชำนาญ ขอรับคำปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage และก็ Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแล้วก็เภสัชกรพร้อมให้คำปรึกษาคุณในทุกเมื่อ