Search

[luktan1479]

หากต้องการสร้างแบรนด์กระเป๋าหนังให้โดดเด่น และได้มาตรฐาน การเลือกผลิตกับโรงงานทำกระเป๋า OEM ก็เป็นทางออกที่ดี โดยมี 6 ขั้นตอนสำคัญ ที่จะช่วยให้การสั่งผลิตกระเป๋าหนังเป็นเรื่องง่าย พร้อมได้สินค้าคุณภาพตามที่ต้องการ ดังต่อไปนี้



[ol]

• กำหนดสเปกสินค้า

[/ol]
ขั้นแรกในการสั่งผลิตกระเป๋า จะเป็นส่วนของการพูดคุยรายละเอียดต่าง ๆ กับทางโรงงาน เช่น วัสดุที่ใช้ ขนาด รูปแบบ และฟังก์ชันที่ต้องการ เพื่อให้โรงงานสามารถเข้าใจความต้องการของคุณได้อย่างชัดเจน เช่น


[ul]

• รูปแบบกระเป๋า: กระเป๋าสะพาย กระเป๋าถือ กระเป๋าสตางค์ หรือกระเป๋าเดินทาง
• วัสดุที่ใช้: หนังแท้ หรือหนังเทียม
• ขนาด และฟังก์ชันการใช้งาน: กระเป๋ามีช่องใส่ของเยอะไหม ? ภายในมีกี่ช่อง ต้องมีซิปหรือไม่ ? อยากจะมีช่องใส่บัตรหรือเปล่า ?
• ดีไซน์ และสีสัน: ควรเลือกสี และรูปแบบที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย

[/ul]


[ol]

• ขอใบเสนอราคา 

[/ol]
เมื่อได้รายละเอียดที่ชัดเจนแล้ว คุณสามารถขอใบเสนอราคาจากโรงงาน OEM รับผลิตกระเป๋าเพื่อเปรียบเทียบราคา และเงื่อนไขต่าง ๆ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าจะไม่เกินงบประมาณที่ตั้งไว้ โดยปกติราคาจะขึ้นอยู่กับปัจจัย ดังต่อไปนี้


[ul]

• ปริมาณการผลิต: การสั่งจำนวนมาก มักได้ราคาต่อหน่วยที่ถูกกว่า
• วัสดุที่เลือกใช้: หนังแท้จะมีราคาสูงกว่าหนังเทียม และวัสดุพิเศษอาจมีต้นทุนเพิ่มขึ้น
• ความซับซ้อนของดีไซน์: หากกระเป๋าที่ต้องใช้ฝีมือการตัดเย็บสูง หรือมีความซับซ้อน ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
• ขนาด: หากเป็นกระเป๋าใบใหญ่ จะใช้วัสดุเยอะ ค่าตัดเย็บอาจสูงขึ้น และอาจต้องมีโครงสร้างเสริมเพิ่ม แต่หากเป็นกระเป๋าใบเล็ก จะใช้วัสดุน้อยกว่า ต้นทุนที่ใช้ก็จะน้อยกว่า

[/ul]


[ol]

• ทำตัวอย่างสินค้า 

[/ol]
ในขั้นตอนขึ้นตัวอย่างสินค้า จะช่วยให้คุณได้เห็นรูปแบบ และการตัดเย็บของกระเป๋าก่อนการผลิตจริง ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถปรับแก้ไข หากมีข้อผิดพลาดในตัวอย่างสินค้า เช่น สี รูปแบบ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ตามข้อกำหนดในสัญญา



[ol]

• สั่งผลิต

[/ol]
เมื่อพอใจกับตัวอย่างแล้วก็สามารถสั่งผลิตได้ โดยควรมีการตกลงเงื่อนไขการผลิต เช่น จำนวนที่ต้องการ และระยะเวลาในการผลิต ซึ่งการสื่อสารที่ชัดเจนในขั้นตอนนี้ จะช่วยให้การผลิตดำเนินไปอย่างราบรื่น และไม่มีปัญหาตามมา
[ol]

• ตรวจสอบคุณภาพก่อนส่งมอบ

[/ol]
ก่อนที่กระเป๋าจะถูกจัดส่งถึงมือคุณ ควรมีการตรวจสอบคุณภาพของสินค้า (QC) เพื่อให้แน่ใจว่าได้มาตรฐานที่ต้องการ ทั้งในเรื่องของวัสดุ การตัดเย็บ และการใช้งาน โดยสามารถตรวจสอบได้ทั้งจากโรงงานโดยตรง หรือให้บุคคลที่สามเข้ามาตรวจสอบ
[ol]

• จัดส่งสินค้า

[/ol]
ในขั้นตอนสุดท้าย เมื่อตรวจสอบคุณภาพเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงขั้นตอนการจัดส่งสินค้า ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการขนส่งที่ปลอดภัย และทันเวลา

ขอบคุณข้อมูลจาก https://suvinocorp.com/